17/9/54

ประสบการณ์จากชีวิตจริง...อิอิ


ข้าพเจ้าเคยทำงานที่ ณ.บริษัทประกอบการด้านอาหารแห่งหนึ่งโรงงานประกอบการด้านอาหารจะมีห้องเย็นสำหรับแช่แข็งเพื่อจัดเก็บวัตถุดิบและที่ข้าพเจ้าทำงานอยู่นั้นจะมีห้องเย็นจัดเก็บวัตถุดิบจำนวน 5 ห้องตัวข้าพเจ้าเองไดรับหน้าที่ให้ตรวจสอบดูแลสภาพของวัตถุดิบและสภาพความเรียบร้อยภายในห้องแต่ละห้องก่อนเลิกงานกลับบ้านตอนเย็นทุกวัน ข้าพเจ้าทำงานอยู่กับห้องเย็นและเคยได้ยินข่าวว่าเคยมีคนถูกขังติดอยู่ในห้องเย็นแช่แข็งบ่อยๆแต่ข้าพเจ้าก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนักจนมีอยู่วันหนึ่งข้าพเจ้าก็ทำหน้าที่ดูแลตรวจสอบของห้องเย็นแต่ละห้องเหมือนปกติขณะที่ข้าพเจ้าจะทำการLockประตูหลังจัดเก็บห้องสุดท้ายที่ข้าเจ้าทำการตรวจมีพนักงานเดินมาบอกกับข้าพเจ้ายังมีเพื่อนพนักงานของเขาอยู่ข้างในห้องอีกคนหนึ่งตัวข้าพเจ้าเองตกใจมากเลยจึงรีบทำการเปิดLockประตูห้องเข้าไปตรวจสอบดูอีกครั้งปรากฏว่ามีพนักงานอยู่ข้างในห้องอีก1 คนจริงตามที่พนักงานบอกข้าพเจ้าได้ทำการสอบถามว่าได้เข้าไปทำความสะอาดตามที่หัวหน้างานสั่งแต่ไม่ทราบว่ามีคนมาLockประตูห้อง
เหตุการณ์ในครั้งนี้สอนให้ข้าพเจ้าได้รู้ว่าความประมาณและการไม่รอบคอบ ไม่ตรวจสอบดูให้ละเอียดจะส่งผลเสียกับชีวิตบุคคลอื่น เราอาจจะไม่ตั้งใจให้มันเกิดขึ้นแต่เราเองประมาณเราเองควรตรวจสอบให้มากกว่านี้ อะไรที่เราคิดว่ามันคงไม่เกิดขึ้นกับตัวเราเองหรือบุคคลอื่นแต่มันอาจเกิดขึ้นได้ถ้าเราประมาณและไม่มีความรอบคอบเพียงพอ...

2/9/54

ประวิติส่วนตั๊ว...ส่วนตัว



ข้าพเจ้านางสาวอารีรัตน์ รำไพ เพื่อนๆ เรียกว่า กวาง เกิดเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2533 ตอนนี้ อายุ 20 ปี ถูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 105/1 หมู่ 2 ตำบลห้วยแก้ว อำเภอภูกามยาว จังหวัดพะเยา บิดาชื่อ นายหลาน รำไพ มารดาชื่อ นางชะวร รำไพ มีพี่น้องร่วมท้อง 2 คน มีพี่สาว 1 คน ข้าพเจ้าเป็นบุตรคนที่ 2 ข้าเจ้าภูมิใจมากที่เกิดมาในครอบครัวที่อบอุ่น
ข้าเจ้าเกิดมาในครอบครัวที่ยากจนเป็นครอบครัวที่เล็ก การดำเนินชีวิตส่วนใหญ่จะทำไร่ ทำนาครอบครัวของข้าพเจ้ายึดอาชีพทำนาพอหลังจากทำนาเสร็จแล้วก็จะหาอาชีพเสริม คือ การรับจ้างทั่วไป ข้าพเจ้าพอหลังจากเรียนเสร็จแล้วก็จะกลับมาช่วยพ่อ แม่ ทำงานบ้าน คือ กวาดบ้าน ถูบ้าน ล้างจาน และทำการบ้านที่คุณครูให้มา
พอข้าพเจ้าอายุครบเกณฑ์ ที่จะต้องเข้าเรียน ข้าพเจ้าได้สมัครเข้าเรียน ชั้นประถมที่ โรงเรียนบ้านห้วยแก้ว เป็นโรงเรียนประจำหมู่บ้าน พอข้าพเจ้าเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 พ่อของข้าเจ้าท่านก็ได้เสียชีวิตลงด้วยอายุ 58 ปี ด้วยโรค ติดเชื้อในกระแสเลือด พอเรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ข้าพเจ้าก็ได้สอบชิงทุนการศึกษา ชื่อว่าทุน เสมาพัตนาชีวิต ทุนนี้แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ ประเภท ก. ได้ค่าอุปกรณ์การเรียนเทอมละ 1, 500 บาท ตลอด 3 ปี และประเภท ข. เรียนโรงเรียนประจำ ข้าพดจ้าได้เลือกเรียนที่โรงเรียนประจำคือโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 24 เป็นโรงเรียนพระบรมราชาอุปถัมภ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ข้าพเจ้าภูมิใจมากที่ได้เป็นลูกพระเจ้าอยู่หัวอีกคนหนึ่ง ข้าเจ้าจึงตั้งใจเรียนเพื่อในหลวงและแม่ พอเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ข้าพเจ้า ได้ผลการเรียนที่ 3.13 และสอบได้โควตาที่ มหาวิทยาลัยภาคกลางคณะ เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ แต่ข้าพเจ้าตัดสินใจไม่เรียนต่อเพราะมันต้องใช้เงินเยอะมากข้าพเจ้าจึงต้องมาทำงานในเมืองหลวง เพื่อเก็บเงินเรียนต่อเอง
ตอนนี้ข้าพเจ้าทำงานอยู่ที่บริษัทไทยอุตสาหกรรมเครื่องปั้นดินเผา ตำแหน่งพนักงาน QC. และได้ศึกษาต่อที่ โรงเรียน วิทยาลัยชุมชนสมุทรสาคร ข้าพเจ้าจะตั้งใจทำหน้าที่ ทำงาน และเรียนให้ดีที่สุด...
" ล้มแล้วลุก ปัดฝุ่น แล้วสู้ต่อไป "

27/8/54

โรคขี้งอน....

 โรคขี้งอนเป็นโรคระบาดที่ร้ายแรง ติดต่ออย่างรวดเร็วขยายตัวเป็นวงกว้างในแนวราบ ยังไม่พบ วัคซีน หรือยารักษา ผู้ป่วยมีอาการหน้างอ และบางรายที่อาการหนักจะมีอาการหน้าดำ แทรกซ้อนด้วย หูแข็ง ฟังอะไร ขัดหูขัดใจไปหมด ตาขวาง น้ำลายไหลเล็กน้อยพองาม ยังไม่พบหลักฐานที่แน่นอน ว่าผู้ใดนำเชื้อมาปล่อย โรคนี้ส่งผลให้อุณหภูมิร่างกายสูง มือไม้สั่น ผู้ป่วยที่อาการหนักอาจถึงขั้นชักดิ้นชักงอ การปฐมพยาบาลเบื้องต้น

    ควรสังเกตอาการผู้ป่วย ว่างอนอยู่ในระดับไหน ถ้างอนน้อยๆ ให้รีบง้อ ผู้พบเห็นทั่วไปควรเอาใจใส่ต่อผู้ที่ติดเชื้อในระยะเริ่มแรก
จะ ทำให้อาการไม่ลุกลาม และสามารถรักษาหายได้ สำหรับผู้ป่วยที่อาการหนัก ผู้ง้อ ควรได้รับการฝึกสอนและเป็นผู้ชำนาญการง้อเป็นพิเศษ เพราะผู้ป่วยจิตใจอ่อนแอ เปราะบางแตกหักง่าย ต้องการความเอาใจใส่ หลังได้รับการรักษาผู้ป่วยที่หายแล้ว ยังสามารถอาการกำเริบได้ทุกเวลา ผู้ใกล้ชิดต้องให้ความรักและความเข้าใจ หากความรักและความเข้าใจลดน้อยลงเมื่อไหร่ อาการงอนจะกำเริบ

**หมายเหตุ**
พบ มากในกลุ่มคนที่มีความสวย และความน่ารัก สำหรับผู้ไม่สวยและไม่น่ารัก จะเรียกอาการเดียวกันนี้ว่า น่าเบื่อ น่ารำคาญ จะปล่อยไปตามยถากรรม ไม่มีการปฐมพยาบาลใดๆ ทั้งสิ้น จนกว่าอาการจะหายหรือตายไปเอง...

กฎ 10 อย่างของการเป็นกิ๊ก

1.ห้ามหึงหวงแต่ห่วงกันได้
(ก้อชั้นไม่ได้รักแกนี่)

2. มีอะไรกันได้แต่ไม่ใช่ของกันและกัน
(ก็ชั้นมีตัวจริงอยู่แล้วนี่หว่า)

3.ไม่มีสิทธิ์เรียกร้องมากเกินเหตุ
(ก็แกไม่ใช่แฟนชั้นนี่หว่า กะแฟนยังเรียกร้องไม่ได้เลย)

4. กิ๊กอาจเปลี่ยนสถานะได้ แต่ถ้าไม่ได้ก็ห้ามเศร้า
(จะไปเศร้าทำไมวะ ก็รู้แต่แรกแล้วว่าเค้ามีแฟนแล้ว)

5. ห้ามใช้กิ๊กร่วมกันกับเพื่อน
(ก็ยังอยากได้ไว้เป็นของส่วนตัวอ่ะน่า)

6. ถ้ากิ๊กคิดจะไปมีแฟนเป็นตัวตนโดยไม่ใช่เรา ห้ามฟูมฟายแต่ต้องพยายามยอมรับและยินดีด้วย แล้วค่อยตกลงกันอีกทีว่าจะยังกิ๊กกันต่อรึเปล่า
(ก็เรารักคนนั้นนิ)

7. ไม่จำเป็นต้อง take care กันเกินเหตุเพราะเป็นแค่กิ๊ก
(เออเด่ะ)

8. กิ๊กมีได้ไม่จำกัดจำนวนเป็น infinity ไม่จำกัดเพศ วัย และ สถานภาพ
(ถ้าไม่กลัวตายเพราะเอดส์แถมยังต้องปีนต้นงิ้วอีกก็เอา)

9. กิ๊กสำคัญรองจากแฟน
(ก็ไม่ใช่แฟนนี่หว่า)

10. กิ๊กยังไงก็เป็นกิ๊กต้องเจียมตัว
(เฮ้อ........ )