27/8/54

โรคขี้งอน....

 โรคขี้งอนเป็นโรคระบาดที่ร้ายแรง ติดต่ออย่างรวดเร็วขยายตัวเป็นวงกว้างในแนวราบ ยังไม่พบ วัคซีน หรือยารักษา ผู้ป่วยมีอาการหน้างอ และบางรายที่อาการหนักจะมีอาการหน้าดำ แทรกซ้อนด้วย หูแข็ง ฟังอะไร ขัดหูขัดใจไปหมด ตาขวาง น้ำลายไหลเล็กน้อยพองาม ยังไม่พบหลักฐานที่แน่นอน ว่าผู้ใดนำเชื้อมาปล่อย โรคนี้ส่งผลให้อุณหภูมิร่างกายสูง มือไม้สั่น ผู้ป่วยที่อาการหนักอาจถึงขั้นชักดิ้นชักงอ การปฐมพยาบาลเบื้องต้น

    ควรสังเกตอาการผู้ป่วย ว่างอนอยู่ในระดับไหน ถ้างอนน้อยๆ ให้รีบง้อ ผู้พบเห็นทั่วไปควรเอาใจใส่ต่อผู้ที่ติดเชื้อในระยะเริ่มแรก
จะ ทำให้อาการไม่ลุกลาม และสามารถรักษาหายได้ สำหรับผู้ป่วยที่อาการหนัก ผู้ง้อ ควรได้รับการฝึกสอนและเป็นผู้ชำนาญการง้อเป็นพิเศษ เพราะผู้ป่วยจิตใจอ่อนแอ เปราะบางแตกหักง่าย ต้องการความเอาใจใส่ หลังได้รับการรักษาผู้ป่วยที่หายแล้ว ยังสามารถอาการกำเริบได้ทุกเวลา ผู้ใกล้ชิดต้องให้ความรักและความเข้าใจ หากความรักและความเข้าใจลดน้อยลงเมื่อไหร่ อาการงอนจะกำเริบ

**หมายเหตุ**
พบ มากในกลุ่มคนที่มีความสวย และความน่ารัก สำหรับผู้ไม่สวยและไม่น่ารัก จะเรียกอาการเดียวกันนี้ว่า น่าเบื่อ น่ารำคาญ จะปล่อยไปตามยถากรรม ไม่มีการปฐมพยาบาลใดๆ ทั้งสิ้น จนกว่าอาการจะหายหรือตายไปเอง...

กฎ 10 อย่างของการเป็นกิ๊ก

1.ห้ามหึงหวงแต่ห่วงกันได้
(ก้อชั้นไม่ได้รักแกนี่)

2. มีอะไรกันได้แต่ไม่ใช่ของกันและกัน
(ก็ชั้นมีตัวจริงอยู่แล้วนี่หว่า)

3.ไม่มีสิทธิ์เรียกร้องมากเกินเหตุ
(ก็แกไม่ใช่แฟนชั้นนี่หว่า กะแฟนยังเรียกร้องไม่ได้เลย)

4. กิ๊กอาจเปลี่ยนสถานะได้ แต่ถ้าไม่ได้ก็ห้ามเศร้า
(จะไปเศร้าทำไมวะ ก็รู้แต่แรกแล้วว่าเค้ามีแฟนแล้ว)

5. ห้ามใช้กิ๊กร่วมกันกับเพื่อน
(ก็ยังอยากได้ไว้เป็นของส่วนตัวอ่ะน่า)

6. ถ้ากิ๊กคิดจะไปมีแฟนเป็นตัวตนโดยไม่ใช่เรา ห้ามฟูมฟายแต่ต้องพยายามยอมรับและยินดีด้วย แล้วค่อยตกลงกันอีกทีว่าจะยังกิ๊กกันต่อรึเปล่า
(ก็เรารักคนนั้นนิ)

7. ไม่จำเป็นต้อง take care กันเกินเหตุเพราะเป็นแค่กิ๊ก
(เออเด่ะ)

8. กิ๊กมีได้ไม่จำกัดจำนวนเป็น infinity ไม่จำกัดเพศ วัย และ สถานภาพ
(ถ้าไม่กลัวตายเพราะเอดส์แถมยังต้องปีนต้นงิ้วอีกก็เอา)

9. กิ๊กสำคัญรองจากแฟน
(ก็ไม่ใช่แฟนนี่หว่า)

10. กิ๊กยังไงก็เป็นกิ๊กต้องเจียมตัว
(เฮ้อ........ )